08 การสร้างความแตกต่าง

ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดในปัจจุบัน เจ้าของร้านต้องหมั่นศึกษาวิเคราะห์หาจุดเด่น หรือ เอกลัษณ์ของตนเอง เพื่อสร้างความแตกต่างที่มีคุณค่าต่อลูกค้า และไม่ซ้ำใคร เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและมาอุดหนุนร้านเราอย่างต่อเนื่อง

shop

ร้านสะดวกซื้ออิ่ม สะดวก ใกล้บ้านคุณ

shop

ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ มาที่เดียว ครบ จบ ทุกบริการ

shop

ร้านโชห่วย / ร้านขายของชำ

4 เทคนิคการสร้างความแตกต่างมัดใจชุมชน?

shop

1. แตกต่างด้วย “สินค้าและบริการ”

2. แตกต่างด้วยการ “ตกแต่ง”

3. แตกต่างด้วย “ความสัมพันธ์กับชุมชน”

4. แตกต่างด้วย “ช่องทางการขาย”

1. แตกต่างด้วยสินค้าและบริการ

นอกจากการมีสินค้าและบริการหลักๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แล้ว ร้านค้าที่ดีควรเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการที่มีคุณค่า ซึ่งหาไม่ได้ หรือหาได้ยากจากร้านอื่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้สูงสุดและครบวงจร นอกจากนั้นการคัดเลือกสินค้าที่ใหม่สด สะอาดได้คุณภาพมาตรฐาน และราคายุติธรรม มาให้บริการลูกค้าอยู่เสมอยังสามารถสร้างความพีงพอใจ และสร้างความมั่นใจให้ ลูกค้าว่ามาร้านเราต้องไม่ผิดหวัง อันจะเป็นจุดสูงสุดของการให้บริการที่แตกต่างอย่างไม่รู้ลืม

2. แตกต่างด้วยการตกแต่งร้าน

การตกแต่งร้านทั้งภายในและภายนอก สามารถสร้างจุดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ สร้างความจดจำให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี การตกแต่งภายในร้าน ต้องไม่ละเลยเรื่องความ สะดวกสบาย ในการเดินเลือกซื้อสินค้าภายในร้านเป็นหลัก โดยอาจใช้ชั้นวางสีสันสดใส และเพิ่มบรรยากาศโดยการเปิดเพลงเบาๆ เพิ่มกลิ่นหอมต่างๆ ส่วนภายนอกร้านอาจ เน้นเรื่องสีสันสดใส แปลกตา หรือการนำวัสดุในท้องถิ่นราคาไม่แพงมาตกแต่งร้าน แทน การติดกระจกเหมือนมินิมาร์ททั่วๆ ไป สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และสัมผัสได้ถึงการเอาใจใส่ของเจ้าของร้าน ที่มอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ

3. แตกต่างด้วย “ความสัมพันธ์กับชุมชน”

เพราะร้านโชห่วยมีข้อได้เปรียบเรื่องความใกล้ชิดกับลูกค้ามากกว่าร้านสะดวกซื้อหรือห้างสมัยใหม่ จึงควรใช้จุดแข็งนี้ให้กลายเป็นจุดขาย ที่สามารถมัดใจลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น โดยควรคำนึงถึง

3.1 การสร้างความประทับใจในการให้บริการ

  • การต้อนรับ ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาทักทาย แสดงออกถึงความเอาใจใส่ ต่อลูกค้าว่า คือคนสำคัญ
  • การค้นหาความต้องการ หมั่นสังเกต และสอบถามความต้องการของ ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจความต้องการที่แท้จริงว่าต้องการสินค้าหรือบริการ อะไรที่ร้านเรายังไม่มี
  • การเสนอความช่วยเหลือและให้ข้อมูล ตอบสนองความต้องการของ ลูกค้า ด้วยการให้ข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าหรือผลประโยชน์ต่อเนื่องที่ลูกค้าควรพิจารณา จัดหาสินค้า หรือบริการที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด เช่น แนะนำรายการชิงโชคของสินค้าในช่วงนั้นๆ
  • การประเมินผลความพึงพอใจ ทำการประเมินผลการให้บริการ เช่น สอบถามความพีงพอใจที่มีต่อสินค้า หรือบริการที่ลูกค้าได้รับ เพื่อนำผลจากการประเมิน มาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป และอย่าลืมแจ้งผลการ ปรับปรุงนั้นๆ ให้ลูกค้าทราบด้วย เช่น ตอนนี้ร้านเราเพิ่มเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เป็นสองเครื่องแล้ว จะได้ไม่ต้องรอนาน

3.2 สร้างความสัมพันธ์กับชุมชน

  • ร้านค้าปลีกมักตั้งอยู่ในชุมชน และเป็นจุดศูนย์รวมของการไปมาหาสู่ จับจ่ายใช้สอยมาช้านาน การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนจึงเป็นจุดแข็งที่เจ้าของร้านจะต้อง รักษาไว้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ร้านค้าของเรา ว่าไม่ได้เป็นเพียงร้านค้าขายของ ทั่วไป แต่เรายังเป็นร้านค้าที่มีส่วนร่วมและทำสิ่งดีๆ เพื่อชุมชน อันจะนำมาซึ่งการ อุดหนุนร้านของเราอย่างต่อเนื่องและตลอดไป

ตัวอย่าง?

เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสาร มีการติดประกาศข่าวสารของคนใน ชุมชน หรือบริการหนังสือพิมพ์ไว้ให้บริการลูกค้า เพื่อเป็นแหล่งพบปะพูดคุย และสร้าง โอกาสขายสินค้าเพิ่มขึ้น

จัดกิจกรรมคืนกำไรให้ชุมชน เช่น จัดจับรางวัลคืนกำไรในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือจัดโปรโมชั่นสินค้าที่ใช้ในช่วงเทศกาล อาทิ จัดโปรโมชั่นขายแป้งทำขนมและน้ำตาล ราคาถูกในเทศกาลงานบุญต่างๆ แจกน้ำแข็งฟรีช่วงเทศกาล เป็นต้น

ร่วมทำบุญ บริจาคในนามลูกค้าและร้านค้าตามโอกาสต่างๆ เช่น งานผ้าป่า สามัคคี กฐินสามัคคี หรือตั้งตู้บริจาคเพื่อนำเงินไปบริจาคให้โรงเรียนหรือวัดในท้องถิ่น

4. แตกต่างด้วย“ช่องทางการขาย”

การกระจายช่องทางจัดจำหน่ายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ เพราะการมีช่องทางการจำหน่ายที่มีความหลากหลายจะสร้างความได้เปรียบในการขายสินค้า ได้รับออเดอร์ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ยกระดับบริการให้กับลูกค้า ปัจจุบันเป็นไปไม่ได้เลยที่ธุรกิจจะมีช่องทางเดียวสำหรับการขายสินค้า