07 การจัดการสต็อกสินค้า

การจัดการสต็อกสินค้า ให้มีจำนวนที่เหมาะสม กล่าวคือ ไม่มากและไม่น้อยไป เพียงพอต่อการขาย จะทำให้ร้านมีเงินทุนหมุนเวียนและช่วยลดต้นทุนจากสินค้าหมดอายุ

ทำไมต้องจัดการสต็อกสินค้า?

เพื่อจะรู้ว่าสินค้าในสต็อกเหลือเท่าไหร่

เพื่อให้รู้ว่าสินค้าตัวไหนขายดีที่สุด สินค้าตัวไหนขายยาก

เพื่อให้รู้ว่าสินค้าตัวไหนที่สร้างกำไร

เพื่อลดการสูญเสีย หรือสูญหายของสินค้า

เพื่อทำให้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรสั่งสินค้าเพิ่มเติม

เริ่มต้นจัดการสต็อกสินค้ากัน!

  1. การนับสต็อกสินค้าเป็นประจำ
  2. ทำบันทึกการซื้อขายสินค้า
  3. ใช้เทคนิคการจัดสต็อกแบบ FIFO
  4. จัดวางสต็อกสินค้าให้เป็นระเบียบ
  5. คำนวณระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้า
shop
  • สินค้า 1 รายการ อยู่บนพื้นที่ขาย 80% และอยู่พื้นที่เก็บสต็อก 20%
  • จำนวนสต็อกสินค้าที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 1.5 เท่า ของจำนวนที่ขายได้

ตัวช่วยสำหรับจัดการสต็อกสินค้า

shop

เครื่อง POS ระบบขายหน้าร้านที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณทำการซื้อ-ขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น มีการเก็บประวัติการขายสินค้า และจำนวนสินค้าคงเหลือภายในร้าน

ระบบคิดเงินอย่างแม่นยำ ลดปัญหาคิดเงินผิด

เก็บประวัติการขายสินค้าแต่ละช่วงเวลา

บอกข้อมูลสินค้าคงเหลือภายในร้านแต่ละรายการ

คำนวณภาษีที่เกิดขึ้นจากการขายสินค้า

ทำระบบสมาชิกให้กับร้านค้าได้

คำนวนระยะเวลาในการสั่งสินค้า

ระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้า หรือ จุดสั่งซื้อ คือ จุดเตือนว่าร้านค้าต้องสั่งซื้อสินค้าล็อตใหม่เข้ามาแล้ว ซึ่งถ้าหากสั่งซื้อ ณ จุดนี้ จะทำให้เรามีสินค้าเข้ามาในสต็อกทันเวลา ไม่มาเร็วจนขายไม่ทัน หรือ มาช้าเกินไปจนไม่มีสินค้าขาย

สต็อก/ขาย จันทร์/22 อังคาร/23 พุธ/24 พฤหัสบดี/25 ศุกร์/26 เสาร์/27 อาทิตย์/28
สต็อกคงเหลือ 60 40 20 60 40 20 60
ขายวันละ 20 20 20 20 20 20 20
จุดสั่งซื้อ จุดสั่งซื้อ
  • ร้านขายซีอิ๊วปรุงรสได้วันละ 20 ขวด
  • สั่งซื้อ 1 ครั้ง ใช้เวลา 3 วัน
  • สต็อกขั้นต่ำที่ควรมีติดร้าน ?
shop

การจัดการบัญชีสต็อกสินค้าคืออะไร?

1. สินค้าคงเหลือ

  • หมายถึง สต๊อกสินค้าที่เก็บไว้ยังขายไม่ออก (ถ้ามีในปริมาณไม่มากไม่น้อยเกินไปคงจะไม่มีปัญหาอะไร )
  • แต่ถ้ามีสินค้าล้นสต๊อกเงินที่สะสมไว้จะมาจมอยู่ในสินค้าเหล่านี้แบบไม่รู้ตัว
  • เพราะสินค้าคงเหลือเป็นสินทรัพย์ประเภทนึง

2. ต้นทุนขาย

  • หมายถึง ต้นทุนสินค้าที่เราขายออกไปให้ลูกค้าแล้ว ตามหลักการบัญชีเมื่อมีรายได้ก็จะต้องมีต้นทุนขายเกิดขึ้น
  • แต่ถ้าตั้งราคาขายต่ำกว่าต้นทุนจะทำให้เราขาดทุนในงบการเงิน
  • สินค้าคงเหลือเมื่อมีการขายออกไปให้ลูกค้า จะย้ายมาอยู่ในงบกำไรขาดทุน เรียกว่า ต้นทุนขาย

3. ค่าใช้จ่าย

  • หมายถึง รายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจะถูกบันทึกบัญชีเป็นต้นทุนขายในงบกำไรขาดทุน
  • แต่ถ้ามีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น เช่น สินค้าเสียหายเกินมาตรฐาน ของหาย หรือของชำรุด แบบนี้เรียกว่างานเข้า ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าในงบการเงิน
  • ค่าใช้จ่ายตัวนี้เรียกชื่อเต็มๆ ว่า “ค่าใช้จ่ายในการบริหาร”